ก่อน ซื้อทอง ต้องดูอะไรบ้าง

Welcome to WordPress. This is your first post. Edit or delete it, then start writing!

อยาก ซื้อทอง แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดีเพราะไม่มีประสบการณ์ในการซื้อทอง วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังว่าก่อน ซื้อทอง ต้องดูอะไร ดูตรงไหน แค่อ่านบทความนี้จบเพียงไม่กี่นาที คุณก็สามารถเตรียมตัวเตรียมตัวซื้อทองสักชิ้นในแบบที่ต้องการได้ทันที

เงินที่พร้อมสำหรับ ซื้อทอง

จะว่าไปใคร ๆ ก็ต้องเตรียมเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกอยู่แล้ว แต่เงินที่พร้อมที่กำลังจะบอกคือ การบริหารจัดการเงินในกระเป๋าหรือในบัญชีคุณว่าจะไม่เดือดร้อนกับการใช้เงินในชีวิตประจำวัน

เพราะการซื้อทองนั้นไม่ต่างอะไรกับการที่คุณนำเงินมาลงทุนกับสินทรัพย์ที่มีมูลค่า ซึ่งถ้าหากคุณมีเงิน 10,000 บาท แต่เทเงินซื้อทองหมดกระเป๋าเลยคงไม่ดีแน่ แต่จะดีกว่าไหม? ถ้าลองเปลี่ยนดูขนาด น้ำหนัก หรือรูปแบบของทองที่มีขนาดเล็กลง เพื่อให้ราคาที่ต้องจ่ายน้อยลงด้วย อย่างน้อยก็ยังมีเงินสำรองเผื่อในยามฉุกเฉิน

หรืออดใจรออีกสักนิ้ดดด… เก็บหอมรอมริบไปอีกสักระยะให้มีเงินมากกว่าราคาทองที่มูลค่า 10,000 บาท ไม่แน่นะราคาทอง ณ ขณะนั้น อาจจะมีราคาต่ำลงกว่าตอนที่ตัดสินใจซื้อตอนแรก คุณก็จะได้ราคาทองที่ถูกกว่าแถมยังเหลือเงินเก็บเพิ่มขึ้นด้วย

เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะซื้อทองด้วยเพื่อเก็บ หรือเก็บก็ได้ ใส่เป็นเครื่องประดับก็ดี การมีเงินสำรอง กับการซื้อทองเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเองนั้น คนละประเด็นกัน

ราคาทอง ณ ปัจจุบัน

เมื่อจัดสรรปันส่วนเงินที่มีที่สามารถซื้อทองได้แล้ว การดูราคาทอง ณ วันนั้น ๆ ก็เป็นเรื่องที่ควรทราบก่อนกำเงินบึ่งเข้าร้านทอง เพราะจะบอกเลยว่าราคาทองผันผวนอยู่ตลอดเวลาชนิดที่วิ่งตามยังไม่ทันเลย ซึ่งปัจจัยหลัก ๆ คือ

• อัตราการขึ้นลงของเงินดอลลาร์สหรัฐ เงินดอลลาร์เป็นเงินที่ใช้เป็นสื่อกลางและเป็นสกุลเงินที่มีการซื้อ – ขาย เป็นจำนวนมาก จึงทำให้ค่าเงินดอลลาร์มีความผันผวนกับราคาทอง หากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงก็จะทำให้ราคาทองมีราคาสูงขึ้น ซึ่งการซื้อทองเหมือนเป็นการป้องกันความเสี่ยงของมูลค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ หรือหากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ก็จะส่งผลให้ราคาทองมีราคาลดลง เพราะนักลงทุนจะหันมาใช้จ่ายหรือลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์แทนนั่นเอง
• ราคาน้ำมัน และราคาทองจะมีความเคลื่อนไหวและมีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกัน และมีผลกระทบต่อราคาสินค้าค่อนข้างมากเพราะเป็นตัวที่ทำให้เกิดเงินเฟ้อ
• อุปสงค์ อุปทาน (Demand/Supply) โดยอ้างอิงตามหลักเศรษฐศาตร์
  • อุปสงค์ คือ ความต้องการใช้หรือซื้อทองคำมีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งปัจจัยนี้ไม่ใช่เพียงแต่ความต้องการของทองคำเท่านั้น ยังสามารถใช้กับสินค้าอื่น ๆ บนโลก เช่น ความต้องการของคนซื้อทองในช่วงเทศกาลพิเศษที่เห็นได้ชัดเลยในประเทศไทยคือ เทศกาลตรุษจีน ก็ส่งผลให้ราคาทองคำมีมูลค่าที่สูง
  • อุปทาน คือ ความต้องการในการขายทองคำ ซึ่งจะมาจาก 3 กลุ่มหลัก ผลผลิตทองคำ ธนาคารกลางแต่ละประเทศ และปริมาณทองคำที่หมุนเวียนอยู่ในระบบ ซึ่งเช่นเดียวกันกับอุปสงค์ หากมีความต้องการขายทองคำสูง มูลค่าทองคำก็จะมีราคาที่ต่ำลง

รูปแบบและลักษณะของทองคำที่ต้องการ ซื้อทอง

ส่วนใหญ่จุดประสงค์ของคนที่ต้องการซื้อทองมีอยู่ 3 เหตุผลหลัก ๆ เลย คือ

• ซื้อเพื่อเก็บ
• ซื้อเพื่อเก็บและสามารถใส่เป็นเครื่องประดับได้ด้วย
• ซื้อเพื่อเป็นของขวัญ

และสิ่งที่คุณควรรู้ต่อไปก็อาจจะเป็นคำตอบให้กับผู้ที่กำลังจะตัดสินใจซื้อทองได้ว่า คุณต้องเลือกซื้อทองแบบไหน ถึงจะโดนใจและใช่กับคุณมากที่สุด

รูปแบบของทองคำ ซึ่งทองคำที่นิยมซื้อขายกันมี 2 แบบด้วยกันคือ ทองคำแท่ง คือ ทองคำที่หลอมเป็นแท่ง โดยนิยมความบริสุทธิ์ของทองอยู่ที่ 96.5% และมีน้ำหนักตั้งแต่ไม่ถึง 1 บาท ไปจนถึงหลายสิบบาท เหมาะสำหรับซื้อเพื่อการลงทุน ซึ่งความบริสุทธิ์ที่ 99.9% ก็มีเช่นกัน แต่ไม่ได้รับความนิยมแพร่หลายนัก และอีกหนึ่งแบบที่ได้รับความนิยมคือ ทองคำรูปพรรณ คือ ทองคำที่ได้ผ่านการแปรรูปเพื่อนำมาเป็นเครื่องประดับให้ความสวยงาม ที่มีทั้ง สร้อยคอ แหวน ต่างหู กำไล โดยความบริสุทธิ์ที่นิยมจะเหมือนกับทองคำแท่งคือ 96.5% ซึ่งในส่วนของ 99.9% ไม่เป็นที่นิยมเช่นกัน เหตุผลเพราะมีความทนทานน้อยกว่านั่นเอง

น้ำหนัก อย่าลืมศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับน้ำหนักของทองก่อนนะ โดยในที่นี้จะพูดถึงทองรูปพรรณ ที่สามารถเห็นได้ชัดว่า น้ำหนักทองที่น้อยไม่จำเป็นจะได้มีรูปร่างหรือลักษณะที่เล็ก หรือน้ำหนักทองมากก็ไม่จำเป็นจะต้องมีขนาดที่ใหญ่เช่นกัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการออกแบบและขั้นตอนการผลิตจากโรงงานทอง

แบบและลวดลายที่ชอบ ซึ่งในส่วนของผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อทองรูปพรรณ ไม่ว่าจะเป็นสร้อย แหวน ต่างหู กำไล ก็มีแบบและลายให้เลือกได้ตามใจชอบ เช่น ลายเปีย, ลายสี่เสา, ลายหกเสา, ลายกระดูกงู, ลายเบนซ์, ลายซีตรอง ลายเหล่านี้จะมีความแข็งแรง และเส้นหนา หรือจะเป็นลาย ประคำคั่นโซ่, ลายไข่ปลา, ลายปล้องอ้อย, ลายโซ่, ลายทาโร่, ลายฟิชโช่ จะให้ความเบา โปร่ง บาง

จะเห็นได้ว่าลวดลายของทองมีผลต่อความแข็งแรงทนทานและอายุการใช้งานด้วยเหมือนกัน ซึ่งคุณต้องเลือกให้ดีว่าแบบและลายไหนที่ตรงกับการใช้งานของเราเพื่อตอบโจทย์ความคุ้มค่ากับเงินที่เราจ่ายไปนั่นเอง

ไลฟ์สไตล์ผู้ใส่ ลองสังเกตพฤติกรรมของตัวเองหรือคนที่เราต้องการจะซื้อทองให้ ว่าเขามีไลฟ์สไตล์การสวมใส่เครื่องประดับอย่างไร การถอด – สวมใส่ อยู่ตลอดเวลาหรือไม่ การใช้ชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งอาชีพ หากมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาการเลือกทองที่มีน้ำหนักเบา หรือลวดลายที่มีความโปร่ง ก็สามารถทำให้ทองเกิดการชำรุด เสียหาย หรือหลุดหายได้

แหล่งและสถานที่ที่ต้องการซื้อ

ข้อนี้นับเป็นข้อที่สำคัญมากๆ เช่นกัน ของการเลือกซื้อทอง คือการหาแหล่งหรือสถานที่ที่ต้องการซื้อ ซึ่งสถานที่ที่เรานึกถึงเป็นอย่างแรกเลยก็คงไม่พ้น ร้านทอง แต่ร้านทองแต่ละร้านก็มีน้ำหนัก ลวดลาย รวมถึงราคาที่แตกต่างกัน แต่ในปัจจุบันการซื้อทองออนไลน์ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางให้เราได้มากขึ้น แต่หลายๆ คนยังเป็นกังวลอยู่หากต้องตัดสินใจเลือกซื้อทองทางออนไลน์

แต่เอาเข้าจริงแล้ว ไม่ว่าจะซื้อทองตามร้านทอง หรือซื้อทองผ่านออนไลน์ โอกาสที่จะได้ทองที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือ “ทองปลอม” มีเปอร์เซ็นต์ไม่ต่างกันมากนัก เพราะฉะนั้น สิ่งที่ต้องทราบและต้องดูให้ชัด ก่อนการเลือกซื้อทองซักแหล่ง คือ

• สามารถบอกราคาได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นราคาทองคำแท่ง หรือทองคำรูปพรรณ ที่แบ่งออกเป็น 2 ราคาเหมือนกัน คือ ราคาซื้อ คือราคาทองที่ร้านรับซื้อ และ ราคาขาย คือราคาทองที่ร้านทองขายออก รวมถึง ราคาบล็อก (สำหรับทองคำแท่ง) และ ค่ากำเหน็จ (สำหรับทองรูปพรรณ)  
• แจ้งรายละเอียดราคาทองคำเปอร์เซ็นต์อื่น ต้องสามารถแจ้งรายละเอียดถึงทองคำในแบบหรือลายที่เราต้องการจะซื้อได้ว่ามีส่วนของทองคำกี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในกรณีทองคำรูปพรรณบางอย่างจะไม่ได้มีทองคำบริสุทธิ์ที่ 96.5% ทั้งหมด แต่ยังมีทองเปอร์เซ็นต์อื่นด้วย เช่น ต่างหู กำไล เพื่อความแข็งแรงทนทานของชิ้นทอง
• สามารถชั่งน้ำหนักทองเพื่อตรวจสอบได้ กรณีที่เดินทางไปซื้อที่ร้านทอง ร้านสามารถชั่งน้ำหนักทองให้สามารถตรวจสอบได้ เมื่อต้องการซื้อทองคำแท่ง น้ำหนักมาตรฐานจะต้องไม่น้อยกว่า 15.244 กรัม ส่วนทองรูปพรรณจะไม่น้อยกว่า 15.16 กรัม หรือทองที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 1 บาท ก็จะมีน้ำหนักที่ลดหลั่นกันไปตามสัดส่วนของทอง ทั้งนี้ น้ำหนักทองจะต้องกำหนดไว้กับใบรับประกันของร้านทองที่ซื้อด้วย
• โลโก้ร้าน หรือโค้ดทองที่ซื้อกับร้านนั้นๆ เพื่อให้ทราบถึงแหล่งที่มาของทองคำ ยกเว้นงานสั่งออกแบบเป็นพิเศษที่อาจจะไม่มีการตอกตรา โดยทองแท่งจะสามารถสังเกตตราปั๊มได้อย่างชัดเจน ส่วนทองรูปพรรณจะสามารถเห็นได้จาก ตะขอ ห่วง ของสร้อยหรือกำไล และแหวนที่มีตราปั๊มอยู่ที่ขอบด้านในของแหวน

*คำแนะนำ หากต้องการเลือกซื้อทองจากช่องทางออนไลน์ ควรตรวจสอบเว็บไซต์และวิธีการสั่งซื้อให้แน่ใจ เพื่อความปลอดภัยควรเลือกซื้อกับร้านทองที่มีทั้งหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ที่สามารถติดตามและตรวจสอบได้ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าทองที่คุณจะได้รับนั้นตรงตามมาตรฐานรองรับจาก สคบ. และสมาชิกสมาคมค้าทอง อย่างแน่นอน

พออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว พอเริ่มดูออกแล้วใช่ไหมคะว่าก่อนเลือกซื้อทองต้องดูอะไรบ้าง? ขั้นตอนต่อไปก็เหลือแค่ไปคว้าทองที่ใช่สำหรับคุณแล้ว และสุดท้ายที่ลืมไม่ได้เลยคือ ต้องดูและเลือกหาช่องทางหรือสถานที่เพื่อให้คุณได้ทองคำแท้ที่ได้มาตรฐาน และไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ