ราคาทอง ขึ้นลง มีสาเหตุมาจากอะไร?

Welcome to WordPress. This is your first post. Edit or delete it, then start writing!

หากเราลองมาคิดดูแล้ว สิ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อทองของคนเรามาก ๆ นั้น คงหนีไม่พ้น ราคาทอง กันใช่ไหมล่ะคะ? ยิ่งถ้าดีดตัวขึ้นสูงมาก ๆ ช่วงนั้นอาจทำให้ผู้ที่สะสมทองหลายต่อหลายคน ตัดสินใจนำทองออกมาขายกันอย่างเทน้ำเทท่าเลยก็ว่าได้ แต่เคยสงสัยกันไหมคะ ว่าที่ทองขึ้นลงผันผวนตลอดเวลานั้นมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง แต่ก่อนที่เราจะไปรู้กัน เรามาดูภาพรวมในรอบ 10 ปีที่ผ่านมากันดีกว่าค่ะ ว่าเป็นอย่างไรมา มาตามไปดูกันเลย…

ราคาทอง ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร?

อย่างที่บอกว่าราคาทองนั้นผันผวนขึ้นลงตลอดเวลา ถ้าเทียบในวันนี้กับเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา มีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสูงขึ้นเพียงอย่างเดียวนะคะ แต่ยังมีลง ซึ่งทำให้นักลงทุนทองหลาย ๆ ท่านต้องวิเคราะห์กันเป็นอย่างดีก่อนที่จะลงทุนเลย เพราะบางปีก็ขึ้นไปสูงมาก แต่พอปีต่อมากลับลดลงไปต่ำสุด ทำให้คาดเดากับสถานการณ์แบบนี้ลำบาก

แต่นักลงทุนทองหลายท่านก็ยังมองว่า การลงทุนในครั้งนี้จะยังได้กำไรและมองว่ายังเป็นช่วงขาขึ้นของทอง โอกาสในการปรับขึ้นของราคาทองนั้นมีมาก ซึ่งปัจจัยหลัก ๆ ของ 2 ปีที่ผ่านมา เกิดมาจากสถานการณ์โควิด ยอดผู้ติดเชื้อที่ยังขึ้นอยู่ต่อเนื่อง เป็นปัจจัยหลักที่ช่วยหนุนให้พุ่งขึ้นสูงเรื่อย ๆ และยังทำให้พุ่งขึ้นไปสูงสุดในรอบ 10 ปี เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 สูงสุดถึง 30,400 บาท ต่อบาททองคำ

ราคาทอง

หลายคนสงสัยว่า เมื่อทอง 1 บาทแตะไปสูงถึง 30,400 บาทแล้ว ราคาทอง 1 สลึง นั้นจะอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ เนื่องจากว่าทอง 1 สลึงนั้นมีน้ำหนักอยู่ 1 ส่วน 4 ของทอง 1 บาท นั่นหมายความว่า ถ้าเกิดทอง 1 บาท ราคา 30,400 บาทแล้วราคาทอง 1 สลึงก็จะอยู่ที่ 7, 600 บาท นั่นเองค่ะ (ราคาทอง 1 บาท/4 = ราคาทอง 1 สลึง) 

**สามารถดูราคาทองอัปเดตแบบวันต่อวัน จากสมาคมค้าทองได้ที่เว็บไซต์ของทองช่วย https://thongchuay.co/

สาเหตุที่ทำให้ราคาทองขึ้นลง

ราคาทอง

ปกติแล้วในประเทศไทย จะมีการคำนวณราคาทองจากตลาดโลกค่ะ โดยวิธีการคำนวณก็คือ จะนำราคาตลาดโลกมาบวกกับค่า Premium จากผู้ค้าทองคำในต่างประเทศ จากนั้นทำการแปลงค่าจากเงินดอลล่าห์สหรัฐ มาเป็นเงินบาท และเปลี่ยนหน่วยน้ำหนักจากออนซ์ มาเป็นบาท ไม่ใช่แค่นั้น ก่อนจะตัดสินราคาออกมายังท้องตลาดนั้น จำเป็นต้องดูภาพรวมต่าง ๆ ของราคาภายในประเทศด้วย ซึ่งปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาในประเทศไทย มีดังนี้

1.ราคาทองคำในตลาดโลก


ถ้าราคาทองคำในตลาดโลกเพิ่มขึ้น สมาคมผู้ค้าทองก็จะดูไปยังปัจจัยอื่น ๆ ด้วยอีกว่ายังคงที่อยู่ไหม ถ้ายังคงที่ ราคาในประเทศก็จะเพิ่มขึ้น และเช่นกัน หากราคาตลาดโลกลดลง แต่ปัจจัยอื่นคงที่ ราคาในประเทศก็จะลดลง

2.ค่าเงินบาท/เงินดอลล่าห์สหรัฐ

ถ้าเกิดค่าเงินบาทลดลง มีโอกาสที่ราคาทองคำในประเทศจะเพิ่มขึ้น และถ้าค่าเงินบาทเพิ่มขึ้น มีโอกาสที่ราคาในประเทศจะลดลง

3.อุปสงค์และอุปทานในประเทศ

ส่วนใหญ่จะมองที่ความต้องการในการซื้อที่มีมากกว่าปริมาณของทองคำ จะทำให้ราคาสูงขึ้น

4.ราคาน้ำมัน

หลาย ๆ คนเคยได้ยินว่าถ้าเกิดราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ทองก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะถ้าเกิดราคาของน้ำมันเพิ่มขึ้น ผลักดันให้เกิดเงินเฟ้อในลักษณะของ Cost Push Inflation ได้

*Cost Push Inflation คืออัตราเงินเฟ้อที่มีปัจจัยมาผลักดันให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เช่น วัตถุดิบแรงงาน ปัจจัยการผลิตอื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่ออุปสงค์คงที่ในช่วงเวลาที่ต้นทุนการผลิตเกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อชดเชยในส่วนนั้น จึงมีการเพิ่มราคาเพื่อรักษาผลกำไรเหล่านั้นไว้

สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจจะลงทุนทองหรือลงทุนทองไปแล้ว การศึกษาราคาขึ้นลงของทองคำไว้ ก็เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เลยแหละค่ะ เพราะจะได้รู้ว่า ช่วงเวลาในที่เป็นช่วงที่ขายแล้วจะได้กำไร หรือช่วงไหนที่ต้องถือไว้ก่อน ไม่งั้นอาจขาดทุน ยังไงแล้ว การดูราคาขึ้นลงของทองในหลาย ๆ ปีจะช่วยในการตัดสินใจได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

สำหรับท่านที่สนใจเรื่องทอง อยากรู้เกี่ยวกับทองมากขึ้น ให้ทองช่วย เป็นผู้ช่วยคุณ

สามารถหาความรู้เพิ่มเติม ได้ที่

1.ทองคำคืออะไร

2.อยากลงทุนทอง เริ่มต้น สะสมทอง ดีไหม

3.ขายทองแท่ง vs ทองรูปพรรณ โดนหักราคาเหมือนกันไหม